สุนัขบาเซนจิ ลักษณะ นิสัย และการดูแล

สำหรับผู้ที่ต้องการหาสุนัขมาเลี้ยงสักตัว ก็อาจคิดไม่ออกว่าจะหาสุนัขพันธุ์อะไรมาเลี้ยงดี แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบสุนัขขนสั้น ตัวไม่ใหญ่มาก รูปร่างปราดเปรียด สุนัขบาเซนจิก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว

ลักษณะของสุนัขบาเซนจิ

สุนัขบาเซนจิ เป็นสุนัขสายพันธุ์เล็กไปจนถึงขนาดกลาง มีความสง่างาม หูตั้ง มีหางที่ม้วนงอ ขนสั้นเป็นมันเงา หน้าผากย่น สีของขนจะมีสีน้ำตาล สีน้ำตาลแดง สีดำ อาจจะมีสีขาวบริเวณของหน้าอกสุนัข ปลายหาง เท้า และบริเวณของลำคอ มีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 10-20 ปี นิยมใช้สุนัขพันธุ์นี้ในการฝึกทักษะล่าเหยื่อ จึงจัดอยู่ในกลุ่มของสุนัขล่าเนื้อ มีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 11 กิโลกรัม และมีความสูงประมาณ 40 เซนติเมตร สุนัขพันธุ์นี้จะมีลักษณะท่าทางในการวิ่งที่มีความคล้ายกับม้าที่กำลังวิ่งอยู่ ซึ่งจะมีหางที่ม้วนงอเหยียดตึง เป็นการสร้างสมดุลเวลาที่สุนัขวิ่งอย่างรวดเร็ว

นิสัยของสุนัขบาเซนจิ

สุนัขบาเซนจิจะมีความฉลาดและเป็นมิตร มีความรักและซื่อสัตย์กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เป็นสุนัขที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยส่งเสียงดัง มีสัญชาติญาณของความเป็นนักล่าสูง ไม่ชอบที่จะให้ใครมาบังคับ รักอิสระ

การดูแล

ควรได้รับอาหารสุนัขคุณภาพสูง 2 มื้อต่อวัน ไม่ควรให้อาหารที่เป็นธัญพืช เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง และธัญพืชอื่นๆ เพราะสุนัขอาจเกิดอาการแพ้หรือย่อยอาหารได้ยาก เป็นสุนัขที่ดูแลค่อนข้างง่าย เนื่องจากเป็นสุนัขขนสั้น จึงไม่ต้องคอยอาบน้ำหรือแปรงขนให้บ่อยๆ และสุนัขจะใส่ใจดูแลทำความสะอาดโดยการใช้อุ้งเท้าคอยทำความสะอาดให้กับตัวเอง

สำหรับการดูแลช่องหูของสุนัขพันธุ์นี้ ให้ใช้สำลีพันปลายไม้ แล้วนำไปชุบน้ำอุ่น หรือจะชุบน้ำยาเช็ดหูสำหรับสุนัขก็ได้ จากนั้นก็ให้เช็ดทำความสะอาดบริเวณช่องหูและซอกหูของสุนัข นอกจากนี้ให้หมั่นตรวจสุขภาพฟัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาของเหงือกอักเสบ และคราบหินปูนที่อาจมาเกาะฟันของสุนัขได้

สุนัขบาเซ็นจิเป็นสุนัขที่มีความแข็งแรง มีสัญชาติญาณของนักล่า ดังนั้นผู้เลี้ยงควรที่จะพาไปออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้สุนัขไม่เครียดและได้ระบายพลังงานออกไป

ใครที่เหมาะกับการเลี้ยงสุนัขบาเซนจิ

เนื่องจากเป็นสุนัขที่รักอิสระ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่สามารถให้อิสระกับสุนัขได้อย่างเต็มที่ มีพื้นที่บริเวณบ้านให้เขาได้วิ่งเล่น และมีเวลาที่จะพาสุนัขไปออกกำลังกายเป็นประจำ

ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์อะไร ก็ต้องการความดูแลเอาใส่ใจจากเจ้าของ ทั้งในเรื่องของอาหารและที่อยู่ และสิ่งสำคัญควรจะพาสุนัขไปฉีดวัคซีนที่จำเป็น เพื่อเป็นการสร้างภูมิต้านทานให้กับสุนัขด้วย