Home Blog Page 3

4 วิธีดูแลใต้ตา ช่วยลดความหมองคล้ำ และเพิ่มความชุ่มชื้น

หากผิวใต้ตามีริ้วรอยหย่อนคล้อย มีความหมองคล้ำ ดูไม่สดใส ซึ่งอาจทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจได้ ถ้าใต้ตาเป็นแบบนี้อยู่ก็ควรที่หาวิธีดูแลใต้ตา เพื่อให้ผิวบริเวณใต้ตากลับมาดูสดใสอีกครั้ง โดยจะมีวิธีการต่างๆที่สามารถทำได้ง่ายๆดังนี้

ทาอายครีมบำรุงผิวบริเวณใต้ตา

บริเวณผิวใต้ตาก็ต้องการความชุ่มชื้นเหมือนกับผิวบริเวณอื่น ดังนั้นหากอยากมีผิวใต้ตาที่มีความสดใส มีริ้วรอยดูลดลงก็ควรที่จะหาอายครีมมาทาบำรุงผิวบริเวณนี้เป็นประจำ ซึ่งอายครีมนั้นก็จะช่วยให้ผิวใต้ตาที่ดูดำคล้ำไม่สดใสกลับมาดูดีอีกครั้ง การทาอายครีมอาจจะใช้เวลานานสักหน่อยกว่าจะเห็นผล แต่ก็ยังดีกว่าการที่ไม่หาครีมมาบำรุงผิวใต้ตาเลย สำหรับการทาอายครีมนั้นควรที่จะทาเป็นประจำหลังจากที่คุณอาบน้ำเสร็จแล้วเช้าและก่อนนอน

นำถุงชาเขียวมาประคบใต้ตา

ชาเขียวมีสารแทนนินและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีคุณสมบัติทำให้ผิวดูสดใสขึ้น ช่วยในการลดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี สามารถที่จะนำมาประคบผิวใต้ตาเพื่อช่วยลดริ้วรอยและลดความหมองคล้ำลงได้ สำหรับวิธีการนั้นก็ให้นำถุงชาเขียวที่ได้ผ่านความร้อน และให้ทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้เย็นลง หลังจากนั้นนำถุงชามาประคบที่บริเวณใต้ตาประมาณ 10 นาที ก็จะช่วยลดความดำคล้ำลงได้

นอนหลับให้เพียงพอ

สาเหตุหลักๆที่ทำให้ผิวบริเวณใต้ตามีริ้วรอยและดำคล้ำก็คือการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งการนอนน้อยนั้นจะส่งผลทำให้เซลล์ผิวได้รับการซ่อมแซมได้ไม่เต็มที่ ทำให้ดูแก่ก่อนวัย รวมถึงผิวใต้ตามีริ้วรอยและมีความหมองคล้ำ โดยเราสามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้น หลีกเลี่ยงการนอนดึกจนเกินไป ก็จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับการซ่อมแซมทำให้ผิวใต้ตาดูผ่องใสดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

มาสก์บำรุงผิวใต้ตา

คุณสามารถที่จะใช้มาสก์ใต้ตาบำรุงให้ความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และขจัดความหมองคล้ำ ก่อนใช้ให้นำมาสก์ไปแช่เย็นซะก่อน พอนำมามาสก์ที่ใต้ตาก็จะรู้สึกได้ถึงความเย็น สดชื่น ควรทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อผิวใต้ตาที่ดูสดใส ไม่หมองคล้ำ มาสก์ใต้ตานั้นจะมีด้วยกันหลายสูตร เช่น สูตรว่านหางจระเข้ สูตรมะเขือเทศ สูตรแตงกวา เป็นต้น หากชอบสูตรไหนก็สามารถเลือกใช้ตามใจชอบได้เลย

คุณสามารถที่จะนำวิธีการต่างๆสำหรับวิธีดูแลใต้ตาไปใช้ได้ เพราะทำเองได้ที่บ้านง่ายๆ และใช้เวลาไม่นานในการทำ เพื่อลดริ้วรอยใต้ตาลงและช่วยลดความหมองคล้ำ ให้ผิวบริเวณใต้ตากลับมาดูดีดังเดิม

รถยนต์เสริมมงคล เคล็ดลับ เสริมสิริมงคลให้เจ้าของรถ

การมีรถยนต์เสริมมงคลนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยทำให้เราเกิดความสบายใจ ส่งเสริมในเรื่องของดวงชะตา นำสิริมงคลให้เข้ามาแก่ชีวิต เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งรถยนต์ที่จะช่วยเสริมมงคลนั้นจะต้องมีรายละเอียดดังนี้

สีรถต้องถูกโฉลก

บางคนนั้นเลือกสีรถที่เป็นสีที่ตนเองชื่นชอบเป็นหลัก แต่ถ้าเลือกสีรถที่ถูกหลักฮวงจุ้ยได้ก็จะเป็นการดี เพราะจะช่วยเสริมในเรื่องของดวงชะตา โชคลาภ การงาน และการค้าขาย ซึ่งสีรถที่ถูกโฉลกกับคนเกิดวันต่างๆนั้น มีดังนี้

  • เกิดวันอาทิตย์ หากอยากให้มีคนรักใคร่ มีโชคลาภ วาสนา ให้ใช้รถสีแดง หากอยากให้มีคนช่วยเหลือเกื้อกูล ให้หารถสีดำมาใช้ และอยากแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุให้ใช้รถสีขาว
  • เกิดวันจันทร์ รถสีเหลือง และสีส้ม จะช่วยเสริมในเรื่องความมั่นคงทางการเงิน หากค้าขายอยู่ก็ให้ใช้รถสีเปลือกมังคุด จะช่วยส่งเสริมการค้าให้เจริญรุ่งเรือง ถ้าอยากเสริมในเรื่องของเกียรติยศ ชื่อเสียง ให้ใช้รถสีเขียว
  • เกิดวันอังคาร ถ้าต้องการเสริมในเรื่องโชคลาภ วาสนา ก็ต้องใช้รถสีน้ำเงิน ส่วนรถสีดำนั้นจะช่วยเสริมอำนาจ บารมี
  • เกิดวันพุธ หากอยากเสริมทรัพย์ เสริมสิริมงคล ให้ใช้รถสีดำ ถ้าอยากเสริมในเรื่องของความแคล้วคลาดปลอดภัย ก็ให้ใช้รถสีเทา
  • เกิดวันพฤหัสบดี รถสีขาวจะช่วยเสริมให้มีคนเคารพนับถือ หากอยากเสริมทรัพย์ก็ให้ใช้รถสีเทา สำหรับรถสีแดงจะเสริมให้แคล้วคลาดปลอดภัย
  • เกิดวันศุกร์ รถสีแดง และสีทอง จะช่วยเสริมสิริมงคล ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ถ้าอยากมีคนอุปถัมภ์ ช่วยเหลือเกื้อหนุน ควรใช้รถสีเหลือง
  • เกิดวันเสาร์ ถ้าทำการค้าขายอยู่ อยากให้มีกำไรดี ให้ใช้รถสีแดง หากอยากได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ ก็ให้ใช้รถสีชมพู

เลขทะเบียนรถเป็นมงคล

เป็นศาสตร์ของตัวเลขที่หลายคนเชื่อว่ามีผลต่อดวงชะตา ซึ่งการมีเลขทะเบียนรถที่ช่วยเสริมดวงก็อาจทำให้ดวงร้ายกลายเป็นดีได้ ความเชื่อในเรื่องของการเสริมดวงชะตานี้เองก็ทำให้เจ้าของรถหลายคน พยายามหาเลขทะเบียนรถที่จะช่วยเสริมความเป็นมงคลให้แก่ชีวิต ยกตัวอย่างเช่น

  • เกิดปีชวดและปีกุน เลขที่ถูกโฉลก ได้แก่ 1, 3, 4 และ 7
  • เกิดปีขาลและปีเถาะ เลขที่ถูกโฉลก ได้แก่ 1, 3, 4 และ 9
  • เกิดปีมะเส็งและปีมะเมีย เลขที่ถูกโฉลก ได้แก่ 2, 3, 4, 5, 8 และ 9
  • เกิดปีวอกและปีระกา เลขที่ถูกโฉลก ได้แก่ 1, 2, 5, 6, 7 และ 8
  • เกิดปีฉลู ปีมะโรง ปีมะแม และปีจอ เลขที่ถูกโฉลก ได้แก่ 2, 5, 6, 7, 8 และ 9

นอกจากการมีรถยนต์เสริมมงคลแล้ว การขับขี่รถยนต์ด้วยความระมัดระวังก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากทำการเสริมสิริมงคลทางด้านรถยนต์พร้อมกับการขับขี่รถด้วยความปลอดภัย ก็จะช่วยส่งเสริมกันให้แคล้วคลาดอันตรายตลอดทุกการเดินทาง

ภาวะแพ้ที่สูง คืออะไร อาการ และการรักษา

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยปีนเขาหรือขึ้นไปท่องเที่ยวบริเวณพื้นที่สูงๆ ก็อาจจะทำให้ร่างกายนั้นเสี่ยงต่อภาวะแพ้ที่สูงได้ ซึ่งหากเป็นแล้วก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้เลย ดังนั้นการรู้จักถึงอาการ และวิธีในการรักษาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในเรื่องนี้

ภาวะแพ้ที่สูง คืออะไร?

ภาวะแพ้ที่สูง เป็นภาวะที่ร่างกายของเรานั้นไม่สามารถที่จะปรับตัวได้ในสภาพพื้นที่ที่มีออกซิเจนต่ำ ส่งผลทำให้มีอาการต่างๆตามมาจากการขาดออกซิเจน ซึ่งอาการนั้นก็จะเริ่มตั้งแต่มีอาการเพียงเล็กน้อย ได้แก่ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ อาเจียน คลื่นไส้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ไปจนถึงอาการที่มีความรุนแรง ได้แก่ สมองบวม ปอดบวม ซึ่งหากเป็นอาการที่มีความรุนแรงแล้วเพียงแค่ 24 ชั่วโมง อาจส่งผลทำให้เสียชีวิตลงได้

อาการของภาวะแพ้ที่สูง

อาการที่ไม่ค่อยมีความรุนแรง

  • Acute Mountain Sickness (AMS) จะมีอาการที่ไม่ค่อยมีความรุนแรงมากนัก จะเกิดอาการก็ต่อเมื่อมีการเดินทางขึ้นไปที่สูงซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลมากกว่า 2500 เมตร สำหรับอาการนั้นจะมีตั้งแต่มึนศีรษะ ปวดศีรษะ อาเจียน คลื่นไส้ นอกจากนี้ยังอาจมีอาการอื่นๆที่อาจจะพบได้คือ หายใจเร็ว เหนื่อย นอนไม่หลับ ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ขึ้นไปบริเวณพื้นที่สูง 4-10 ชั่วโมง เมื่อขึ้นไปที่สูงแล้วอาจมีอาการเกิดขึ้นในคืนแรก ซึ่งอาการจะไม่ค่อยมีความรุนแรง และภายใน 1-2 วัน ร่างกายก็จะสามารถที่จะปรับตัวได้

อาการที่มีความรุนแรง

  • High Altitude Cerebral Edema (HACE) เป็นภาวะสมองบวมเกิดจากการอยู่ในบริเวณพื้นที่สูง ซึ่งภาวะสมองบวมนี้เป็นอาการที่มีความต่อเนื่องมาจากภาวะ AMS สำหรับอาการต่างๆนั้นจะมีตั้งแต่อาเจียน คลื่นไส้ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง มีอาการเห็นภาพซ้อน เดินเซ หากมีความรุนแรงของอาการก็จะเกิดการชัก จนถึงขั้นหมดสติ และอาจจะทำให้เสียชีวิตลงได้
  • High Altitude Pulmonary Edema (HAPE) เป็นภาวะปอดบวมน้ำซึ่งเกิดจากการที่อยู่ในบริเวณพื้นที่สูง ภาวะนี้จะมีความรุนแรงมาก ผุ้ป่วยจะมีอาการที่เหนื่อยง่ายเวลาต้องออกแรง หรืออยู่เฉยๆก็มีอาการเหนื่อยหอบ มีอาการไอแห้งๆ หลังจากนั้นอาการไอก็จะมีมากยิ่งขึ้น มีเสมหะที่มีลักษณะเป็นฟองสีชมพู ซึ่งหากมีภาวะนี้ก็อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตลงในเวลาอันรวดเร็วได้

การรักษา

  • ถ้าอาการนั้นยังไม่รุนแรง เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อันเนื่องมาจาก AMS ก็ให้นอนพักเอาแรงก่อน หากอาการดีขึ้นแล้วก็ให้นำผู้ป่วยลงมาจากที่สูงได้
  • อาการ AMS นั้นสามารถที่จะบรรเทาด้วยการรับประทานยาแก้ปวด ยาสำหรับแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน เพื่อเป็นการบรรเทาอาการให้ดีขึ้น
  • สำหรับภาวะ HACE หากบริเวณใกล้เคียงนั้นมีสถานพยาบาลอยู่ ในเบื้องต้นนั้นสามารถทำการรักษาโดยการให้ออกซิเจนและยา Dexamethasone หากบริเวณใกล้เคียงไม่มีสถานพยาบาลและอาการยังไม่ดีขึ้น ก็ให้รีบนำผู้ป่วยลงมาจากที่สูง
  • ภาวะ HAPE เป็นภาวะที่สามารถทำให้เสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากมีภาวะ HAPE ก็ควรลงมาจากที่สูงโดยเร็ว กรณียังไม่สามารถนำผู้ป่วยลงจากที่สูงได้ให้รีบหาสถานพยาบาลใกล้เคียงเพื่อนำออกซิเจนมาให้สูดดมระหว่างที่รอการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยลงมา

การขึ้นไปบริเวณพื้นที่สูงๆ อย่างเช่นการปีนเขานั้นคุณจะต้องมีความพร้อมทั้งสภาพของร่างกายและจิตใจ ควรมีการเตรียมอุปกรณ์พื้นฐานต่างๆในการปฐมพยาบาลไปด้วย เพราะหากคุณมีอาการแพ้ที่สูงขึ้นมาจะได้มีการรักษาในเบื้องต้น ก่อนที่จะนำตัวผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลที่ใกล้เคียงต่อไป

6 ลักษณะของเพื่อนที่ดี เพื่อนที่น่าคบหา

ใครที่มีเพื่อนที่ดีนั้นถือว่าเป็นมงคลแก่ชีวิต เพราะว่าการมีมิตรแท้ การมีคนที่คอยให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำแต่เรื่องราวดีๆ จะทำให้เรานั้นได้รับคำแนะนำมาใช้ในการแก้ปัญหาของชีวิตที่เราได้พบเจออยู่ ซึ่งลักษณะของเพื่อนแท้ มิตรที่ดี จะมีลักษณะดังนี้

ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามเดือดร้อน

ในยามที่เราเดือดร้อนนั้น หากเป็นเพื่อนแท้เขาจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรา หากปัญหานั้นไม่ได้เกินกำลังของเขาที่จะช่วยเหลือได้ หากเราเดือดร้อนในเรื่องเงิน แล้วไปเอ่ยปากขอยืมเงินกับเพื่อน เขาก็อาจจะให้ยืมตามกำลังทรัพย์ที่เขาพอมี หากเขาบอกว่าไม่มีเงินให้ยืม เราก็อย่าพึ่งไปด่วนตัดสินใจว่าเขาไม่มีน้ำใจ ไม่ใช่เพื่อนแท้ เพราะบางทีเขาอาจจะเดือดร้อนเรื่องเงินอยู่เหมือนกับเราก็ได้ ดังนั้นก็ควรใช้เหตุการณ์อื่นๆในการพิจารณาด้วยว่าเขาเป็นเพื่อนแท้หรือไม่

รับฟังปัญหาของเพื่อน

หากคุณมีปัญหาเรื่องราวต่างๆในชีวิต ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร หากเป็นมิตรแท้เขาก็พร้อมที่จะรับฟังเรื่องราวปัญหาต่างๆที่คุณได้พบเจอ พร้อมกับให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหานั้นๆตามแนวทางที่ดีเสมอ เขาจะไม่พูดซ้ำเติมคุณ ไม่พูดเยาะเย้ยถากถางคุณ ให้คุณต้องเสียใจซ้ำกับเรื่องราวที่ได้เจอมา

ชักจูงเราไปในทางที่ดี

เพื่อนที่ดีนั้นจะแนะนำแต่เรื่องราวดีๆให้คุณได้รับรู้อยู่เสมอ อย่างเช่น หากคุณคบกับเพื่อนที่ทำงานอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ เขาอาจจะแนะนำช่องทางในการสร้างรายได้ในวงการนี้ให้กับคุณ สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลให้คุณได้เห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ และทำให้คุณมีความเจริญรุ่งเรืองในการทำธุรกิจได้

ไม่นินทาลับหลัง

มิตรสหายที่ดีจะไม่นำเอาเรื่องส่วนตัวของคุณไปพูดนินทากับผู้อื่น เพื่อนที่พูดดีกับคุณต่อหน้า หรือเพื่อนที่สัญญาว่าจะเก็บเรื่องที่เป็นความลับของคุณ แต่สุดท้ายเขากลับเอาเรื่องส่วนตัวของคุณไปพูดนินทาอย่างสนุกปาก หากคุณเจอเพื่อนที่มีนิสัยแบบนี้ก็ควรที่จะหลีกหนีให้ห่าง

ไม่อิจฉา

หากเป็นเพื่อนที่ดี เวลาที่คุณได้ดีมีชีวิตที่ก้าวหน้า เขาเหล่านี้ก็จะยินดีในความสำเร็จของคุณ แต่ถ้าคุณเจอเพื่อนที่เห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้ มีความอิจฉาริษยา คุณก็ควรที่จะหลีกหนีเพื่อนแบบนี้ไปให้ไกล เพราะว่าคนที่มีนิสัยอิจฉาผู้อื่นจะมีแต่พลังในด้านลบในตัวเอง แทนที่จะยินดีไปกับคนที่ประสบความสำเร็จหรือนำแบบอย่างที่ดีมาใช้ในการดำรงชีวิต คนเหล่านี้กลับอิจฉาหรืออาจว่าร้ายเราในทางที่เสียหายได้

มีสัจจะในตัวเอง

คนที่มีสัจจะต่อตัวเองและผู้อื่น นับว่าเป็นคนที่น่าคบหา เพราะว่าเขาจะเป็นคนที่พูด หรือรับปากอะไรกับใครไว้แล้วจะทำตามนั้นโดยที่ไม่ผิดคำพูด ดังนั้นหากคุณเจอคนแบบนี้ก็สามารถที่จะคบหากันเป็นเพื่อนได้

การเลือกคบกับเพื่อนที่ดีนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขาสามารถที่จะนำพาคุณไปพบเจอแต่เรื่องราวดีๆ หรืออาจจะแนะนำโอกาสดีๆต่างๆให้แก่คุณ ดังนั้นหากคุณเจอเพื่อนในลักษณะที่กล่าวมา คุณก็ควรที่จะรักษามิตรภาพความเป็นเพื่อนนั้นไว้ด้วย

บ้านประหยัดพลังงาน คืออะไร ใช้วัสดุอะไรในการก่อสร้าง

เรื่องของการทำบ้านประหยัดพลังงานนั้น จะต้องมีการใช้วัสดุหลายอย่างที่สามารถช่วยให้บ้านมีความร้อนสะสมน้อยลง ซึ่งจะส่งผลทำให้บ้านเย็นสบายมากขึ้น สามารถที่จะลดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากการเปิดเครื่องปรับอากาศได้

บ้านประหยัดพลังงาน คืออะไร?

บ้านประหยัดพลังงาน คือ บ้านที่มีการออกแบบให้ภายในตัวบ้านมีความเย็นสบาย ออกแบบให้มีความร้อนสะสมภายในบ้านน้อยที่สุด เพื่อเป็นการลดการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างพัดลมและเครื่องปรับอากาศ โดยบ้านจะต้องมีการออกแบบให้สามารถป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ ความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่มากระทบตัวบ้านจะทำให้บ้านร้อนขึ้น ทำให้มีการใช้เครื่องปรับอากาศและพัดลมมากขึ้น จึงส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงาน

วัสดุก่อสร้างสำหรับการทำบ้านประหยัดพลังงาน

คอนกรีตมวลเบา

ในปัจจุบันคอนกรีตมวลเบาได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะมีคุณสมบัติป้องกันความร้อนได้ดี โดยที่ส่วนผสมของคอนกรีตนั้นจะทำมาจากซีเมนต์ ทราย ยิปซั่ม ปูนขาว ผงอลูมิเนียม และน้ำ และมีฟองอากาศเล็กๆเป็นรูพรุนอยู่ในเนื้อวัสดุ ทำให้มีน้ำหนักเบา และฟองอากาศในเนื้อวัสดุจะช่วยเป็นฉนวนสำหรับป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี

อิฐมอญ

เป็นวัสดุที่ผลิตจากดินเหนียว แล้วนำมาเผาเพื่อให้เกิดความคงทนแข็งแรง เป็นวัสดุที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งคุณสมบัติเด่นของอิฐมอญนั้นจะให้ความร้อนมีการถ่ายเทเข้าออกได้โดยง่าย สามารถที่จะเก็บความร้อนไว้ภายในเนื้อวัสดุ และค่อยๆถ่ายเทความร้อนออกสู่ภายนอก

กระจกตัดแสง

อาคารบ้านเรือนในปัจจุบันนั้นส่วนหนึ่งนิยมที่จะใช้กระจกเป็นส่วนประกอบผนังอาคาร เพราะจะให้ความสวยงาม และคนที่อยู่ภายในบ้านจะสามารถมองออกมาเห็นวิวภายนอกบ้านได้มากยิ่งขึ้น สำหรับกระจกนั้นแสงแดดจะสามารถส่องเข้ามาภายในตัวบ้านได้มาก ดังนั้นจึงควรเลือกใช้งานกระจกที่สามารถช่วยลดปริมาณแสงอาทิตย์หรือความร้อนที่ผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้ ซึ่งกระจกที่สามารถกันความร้อนได้เป็นอย่างดี เช่น กระจกสีตัดแสง กระจกฉนวนกันความร้อน กระจกเคลือบผิวสะท้อนแสง เป็นต้น

ติดตั้งระแนงบังแดด

สำหรับผนังบ้านที่มักจะโดนแดดอยุ่เป็นประจำ เราสามารถที่จะลดความร้อนภายในตัวบ้านได้ ด้วยการติดตั้งระแนงบังแดด เพื่อให้ผนังบ้านโดนแดดน้อยลง ส่งผลให้ภายในบ้านเย็นสบายมากขึ้น

หลังคาบ้านกันร้อน

หากอยากได้บ้านที่มีความเย็นสบายมากยิ่งขึ้น ควรเลือกวัสดุของหลังคาบ้านที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนของแสงอาทิตย์ได้ เช่น กระเบื้องหลังคาแบบลอนที่ผลิตจากคอนกรีตสีขาว ที่สามารถสะท้อนแสงแดดและความร้อนได้เป็นอย่างดี หรืออาจจะใช้หลังคาเมทัลชีทติดฉนวน PE ที่สามารถสะท้อนความร้อนได้มากถึง 95 เปอร์เซ็นต์

ภายในบ้านที่เย็นสบายนั้นจะทำให้บ้านมีความน่าอยู่มากขึ้น และหากไม่อยากที่จะเปิดแอร์มากเกินไปเพราะกลัวสิ้นเปลืองค่าไฟ ก็ให้สร้างบ้านที่ใช้วัสดุที่สามารถกันความร้อนจากแสงแดด เพื่อช่วยให้ภายในบ้านมีความเย็นสบายและสามารถที่จะประหยัดพลังงานได้ด้วย

สุนัขบาเซนจิ ลักษณะ นิสัย และการดูแล

สำหรับผู้ที่ต้องการหาสุนัขมาเลี้ยงสักตัว ก็อาจคิดไม่ออกว่าจะหาสุนัขพันธุ์อะไรมาเลี้ยงดี แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบสุนัขขนสั้น ตัวไม่ใหญ่มาก รูปร่างปราดเปรียด สุนัขบาเซนจิก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว

ลักษณะของสุนัขบาเซนจิ

สุนัขบาเซนจิ เป็นสุนัขสายพันธุ์เล็กไปจนถึงขนาดกลาง มีความสง่างาม หูตั้ง มีหางที่ม้วนงอ ขนสั้นเป็นมันเงา หน้าผากย่น สีของขนจะมีสีน้ำตาล สีน้ำตาลแดง สีดำ อาจจะมีสีขาวบริเวณของหน้าอกสุนัข ปลายหาง เท้า และบริเวณของลำคอ มีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 10-20 ปี นิยมใช้สุนัขพันธุ์นี้ในการฝึกทักษะล่าเหยื่อ จึงจัดอยู่ในกลุ่มของสุนัขล่าเนื้อ มีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 11 กิโลกรัม และมีความสูงประมาณ 40 เซนติเมตร สุนัขพันธุ์นี้จะมีลักษณะท่าทางในการวิ่งที่มีความคล้ายกับม้าที่กำลังวิ่งอยู่ ซึ่งจะมีหางที่ม้วนงอเหยียดตึง เป็นการสร้างสมดุลเวลาที่สุนัขวิ่งอย่างรวดเร็ว

นิสัยของสุนัขบาเซนจิ

สุนัขบาเซนจิจะมีความฉลาดและเป็นมิตร มีความรักและซื่อสัตย์กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เป็นสุนัขที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยส่งเสียงดัง มีสัญชาติญาณของความเป็นนักล่าสูง ไม่ชอบที่จะให้ใครมาบังคับ รักอิสระ

การดูแล

ควรได้รับอาหารสุนัขคุณภาพสูง 2 มื้อต่อวัน ไม่ควรให้อาหารที่เป็นธัญพืช เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง และธัญพืชอื่นๆ เพราะสุนัขอาจเกิดอาการแพ้หรือย่อยอาหารได้ยาก เป็นสุนัขที่ดูแลค่อนข้างง่าย เนื่องจากเป็นสุนัขขนสั้น จึงไม่ต้องคอยอาบน้ำหรือแปรงขนให้บ่อยๆ และสุนัขจะใส่ใจดูแลทำความสะอาดโดยการใช้อุ้งเท้าคอยทำความสะอาดให้กับตัวเอง

สำหรับการดูแลช่องหูของสุนัขพันธุ์นี้ ให้ใช้สำลีพันปลายไม้ แล้วนำไปชุบน้ำอุ่น หรือจะชุบน้ำยาเช็ดหูสำหรับสุนัขก็ได้ จากนั้นก็ให้เช็ดทำความสะอาดบริเวณช่องหูและซอกหูของสุนัข นอกจากนี้ให้หมั่นตรวจสุขภาพฟัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาของเหงือกอักเสบ และคราบหินปูนที่อาจมาเกาะฟันของสุนัขได้

สุนัขบาเซ็นจิเป็นสุนัขที่มีความแข็งแรง มีสัญชาติญาณของนักล่า ดังนั้นผู้เลี้ยงควรที่จะพาไปออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้สุนัขไม่เครียดและได้ระบายพลังงานออกไป

ใครที่เหมาะกับการเลี้ยงสุนัขบาเซนจิ

เนื่องจากเป็นสุนัขที่รักอิสระ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่สามารถให้อิสระกับสุนัขได้อย่างเต็มที่ มีพื้นที่บริเวณบ้านให้เขาได้วิ่งเล่น และมีเวลาที่จะพาสุนัขไปออกกำลังกายเป็นประจำ

ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์อะไร ก็ต้องการความดูแลเอาใส่ใจจากเจ้าของ ทั้งในเรื่องของอาหารและที่อยู่ และสิ่งสำคัญควรจะพาสุนัขไปฉีดวัคซีนที่จำเป็น เพื่อเป็นการสร้างภูมิต้านทานให้กับสุนัขด้วย

ทัวร์ฮ่องกง ไหว้พระ กราบไหว้ขอพรที่วัดฮ่องกง

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวตามวัดต่างๆ หรือนิยมที่จะไปกราบไหว้ขอพรตามวัด เพื่อให้ตนเองสมหวังดังตั้งใจ และหากมาเที่ยวที่ฮ่องกง การทัวร์ฮ่องกง ไหว้พระ ก็เป็นทริปการท่องเที่ยวหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่น้อย ซึ่งหากคุณมากับกรุ๊ปทัวร์ก็จะสะดวกสบายมากขึ้น เพราะว่าไกด์ทัวร์ก็จะได้อธิบายประวัติความเป็นมาของวัดให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นด้วย

หากมาฮ่องกงโดยมีจุดมุ่งหมายมาไหว้พระ ขอพร ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาที่วัดเหล่านี้

วัดหวังต้าเซียน

เป็นวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งจากชาวจีนและชาวฮ่องกง วัดแห่งนี้จะมีผู้ที่เลื่อมใสศรัทธามาขอพรในเรื่องสุขภาพ ขอพรเสริมดวงชะตา แก้ปีชง หรือถ้าอยากสละโสด ก็จะมาขอพรให้ได้เนื้อคู่ ตัวอาคารของวัดเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม ทางเข้าเป็นซุ้มประตูดูสวยงามยิ่งใหญ่ บริเวณลานวัดด้านในจะมีแท่นสีแดงสำหรับนั่งคุกเข่าขอพรและกราบไหว้ นอกจากนี้บริเวณวัดจะมีการประดับโคมลอยดูสวยงาม และหากต้องการจะเสี่ยงเซียมซีก็สามารถทำได้ ซึ่งก็จะมีแปลทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษด้วย

วัดเจ้าแม่กวนอิม อ่าวรีพัลส์เบย์

จุดประสงค์ของการสร้างวัดแห่งนี้ก็เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองชาวประมงเวลาที่ออกเดินเรือหาปลา ภายในบริเวณวัดจะมีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ตั้งอยู่บริเวณทางด้านซ้ายของวัด ผู้คนที่นิยมเดินทางมาที่วัดแห่งนี้จะนิยมมาขอพรเพื่อให้ได้ลูก และมีความเชื่อว่าสามารถที่จะขอพรอธิษฐานจิตเพื่อขอเพศของลูกได้ โดยหลังจากที่ขอพรกราบไหว้เสร็จแล้ว ก็ให้ลูบบริเวณท้องของพระสังกัจจาย หากต้องการได้ลูกชายให้ลูบท้องซ้าย หากต้องการได้ลูกสาวให้ลูบท้องขวา

วัดหม่านโหมว

วัดหม่านโหมวจะมีอยู่หลายสาขามาก มีสาขาทั้งในฮ่องกงเองและประเทศจีน วัดแห่งนี้จะเป็นที่นิยมของนักเรียนนักศึกษามากราบไหว้ขอพรกัน ในอดีตนั้นผู้ที่ต้องการสอบจอหงวนก็จะนิยมมาขอพรเพื่อให้การสอบของตัวเองนั้นสำเร็จผล โดยวัดหม่านโหมว ย่าน Sheung Wan จะเป็นสาขาของวัดหม่านโหมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นในปี 1847 และมีการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติประจำฮ่องกงด้วย

วัดแชกงหมิว

เป็นวัดที่ได้รับคำร่ำลือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ภายในวัดจะมีกังหันสีทอง ซึ่งผู้คนเชื่อกันว่าหากได้หมุนกังหันโดยหมุนตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ โชคลาภ ความเป็นสิริมงคล ก็จะเข้ามาแก่ชีวิต และช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีสิ่งเลวร้ายต่างๆออกไป วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงท่านแชกง ซึ่งเป็นตำนานนักรบของราชวงศ์ซ่ง ช่วยปราบศึกออกรบ จนทำให้แคว้นต่างๆมีความยำเกรงในความเก่งกาจและกล้าหาญ

การมาไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ก็สามารถที่จะช่วยให้จิตใจเราสงบมากขึ้น เป็นการเสริมพลังในด้านดีให้กับตัวเอง และสามารถช่วยให้ดำเนินชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น และหากคุณมาทัวร์ฮ่องกง ไหว้พระโดยเฉพาะ ก็สามารถที่จะมากราบไหว้ขอพรตามวัดที่แนะนำได้เลย

5 ความสุขของเด็ก ที่ผู้ปกครองควรใส่ใจ

วัยเด็กเป็นวัยที่ควรได้รับความสุขอย่างเหมาะสม ผู้ปกครองควรให้ความรักความอบอุ่นแก่เด็ก คอยชี้แนะแนวทางการใช้ชีวิตตามสมควร ไม่ควรที่จะไปยัดเยียดในสิ่งที่เด็กไม่ชอบทำ เพราะเด็กจะเกิดความเครียดและความกดดัน ใช้ชีวิตไม่มีความสุข ดังนั้นความสุขของเด็กจึงเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองควรใส่ใจ

การที่เด็กใช้ชีวิตอย่างมีความสุชเป็นสิ่งที่สำคัญ สำหรับความสุขของเด็กในเรื่องต่างๆนั้นมีดังนี้

พ่อแม่ส่งเสริมในสิ่งที่เด็กชอบ

การที่เด็กได้ทำในสิ่งตัวเองชอบ พ่อแม่ก็ควรที่จะส่งเสริมให้เด็กได้แสดงความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ หากเด็กชอบวาดรูป วาดรูปต่างๆได้เก่งมาก พ่อแม่ก็ควรที่จะสนับสนุน ซื้ออุปกรณ์วาดรูปให้ หรือที่ไหนมีการประกวดการแข่งขันวาดรูปก็พาไป หรือถ้าเด็กมีความสามารถในการร้องเพลง ก็สามารถที่จะพาไปสมัครแข่งขันตามเวทีต่างๆ เพื่อให้เด็กได้ประสบการณ์ หากพ่อแม่สนับสนุนอย่างเต็มที่ ก็จะช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง และในอนาคตก็จะสามารถพัฒนาสิ่งที่เขาชื่นชอบไปทำเป็นอาชีพเพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้

ได้กินอาหารที่มีประโยชน์

อาหารที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อพัฒนาการของเด็ก เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ ผักผลไม้ตามฤดูกาล เป็นต้น อาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านร่างกายที่ดี เติบโตสมวัย สามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสมอง ทำให้สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ดีมากยิ่งขึ้น

นอนหลับอย่างเพียงพอ

หากเด็กมีการนอนหลับอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยให้อารมณ์แจ่มใสตลอดทั้งวัน กลับกันหากเด็กนอนดึกมากเกินไป พักผ่อนน้อย ก็จะทำให้พัฒนาการทางด้านร่างกายไม่ดี สมองเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ช้า อาจเกิดผลเสียต่อการเรียนได้ ดังนั้นผู้ปกครองก็ควรที่จะปลูกฝังให้เด็กได้รู้ถึงประโยชน์ของการนอนด้วย

ได้เล่นอย่างอิสระ

การปล่อยให้เด็กได้เล่นอย่างอิสระคนเดียว หรือเล่นกับเพื่อนๆ จะเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์ที่ดีขึ้น สามารถที่จะเรียนรู้ในการแก้ไขปัญหาต่างๆได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็ก เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการใช้ชีวิตในอนาคต

เมื่อเด็กทำดีให้ชื่นชม

หากเด็กได้ทำความดี หรือทำสิ่งต่างๆที่เป็นประโยชน์ ก็ให้ชื่นชม เพราะจะส่งผลทำให้เด็กมีความมั่นใจ และกล้าแสดงออกในการทำกิจกรรมต่างๆ และเป็นการส่งเสริมทำให้เด็กเป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำในสิ่งดีๆมากยิ่งขึ้น

เด็กที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ได้รับความรัก ได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครองในเรื่องที่ดี เมื่อเด็กโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็จะสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้อย่างเป็นสุข และสามารถที่จะสร้างครอบครัวของตัวเองให้มีความอบอุ่นได้

วิธีง่าย ๆ ที่จะสอนลูกให้เห็นอกเห็นใจผู้อื่น

ทักษะทางสังคมที่ดีอย่างหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องของความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยที่พฤติกรรมดังกล่าวสามารถฝึกฝนได้ตั้งแต่เด็ก ที่ส่งผลโดยตรงต่อความฉลาดทางด้านอารมณ์ หรือ EQ ได้ด้วยเช่นกัน ที่จะทำให้เด็ก ๆ เติบโตมาได้อย่างมีคุณภาพ รู้จักรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นมาในอนาคตได้เป็นอย่างดี พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เพราะถ้าหากเด็ก ๆ สามารถเรียนรู้ที่จะเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ ก็จะทำให้การใช้ชีวิตในอนาคตเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นได้อย่างแน่นอน

1. ให้ลูกเลี้ยงสัตว์

มีงานวิจัยออกมาให้ได้ศึกษากันเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับเรื่องของเด็กที่เลี้ยงสัตว์ เพราะวิธีดังกว่างจะสามารถทำให้เด็กมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็น ไม่เห็นแก้ตัว เพราะการเลี้ยงสัตว์ ก็เหมายถึงการมอบความรัก และแบ่งปันสิ่งของ แถมยังได้สังเกตพฤติกรรมทางภาษากายได้อีกด้วย เพราะว่าสัตว์เลี้ยงของพวกเขาตัวการอะไร ก็จะแสดงออกด้วยภาษากาย ทำให้พัฒนาการเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

2. อ่านวรรณกรรมให้ลูกฟัง

เพราะการเขียนวรรณกรรม จะเป็นการเน้นไปที่เรื่องราวของตัวละครหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาของตัวบุคคล การตัดสินใจในเรื่องราวต่าง ๆ ภายในเนื้อเรื่อง โดยที่ได้มีงานวิจัยออกมาว่า การอ่านวรรณกรรมนั้น จะช่วยให้ผู้อ่านมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ มีการเรียนรู้ในเรื่องของจุดมุ่งหมายต่าง ๆ ที่อาศัยแรงขับเคลื่อนเป็นตัวกำหนด ผ่านตัวละครภายในหนังสือที่อ่าน

3. ชื่นชม

เพราะการแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ที่ถึงแม้จะเป็นการแสดงความรู้สึกผ่านสื่อ โทรทัศน์ต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นการแสดงออกที่น่าชื่นชม เพราะฉะนั้นควรให้รางวัลในความเห็นอกเห็นใจด้วยความรัก อาจจะเป็นการกอด ปรบมือ และคำชื่นชม เพราะเมื่อเด็ก ๆ รู้ว่าสิ่งเหล่านี้คือพฤติกรรมที่จะได้รับคำชื่นชม ลูกก็จะทำต่อไปเรื่อย ๆ

4. พ่อแม่ คือตัวอย่างที่ดีที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นการสอนในเรื่องใด ๆ ก็ตาม สิ่งที่จะทำให้ลูกเรียนรู้ได้เร็วที่สุด ก็คือการได้เห็น พ่อ และแม่ทำเป็นตัวอย่าง ที่จะสามารถทำให้ลูกเรียนรู้ได้เร็ว โดยเฉพาะการสอนลูกให้เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เพียงแค่คุณสนใจสิ่งที่ลูกบอก หรือพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงการแบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็นการที่พ่อ และแม่ ใส่ใจในอารมณ์ และความรู้สึกของคนรอบข้าง ถึงแม้จะไม่ใช่คนที่รู้จักกันกตาม ลูกก็จะสามารถซึมซับสิ่งเหล่านี้ตามพ่อแม่ได้นั่นเอง

เพราะความเห็นอกเห็นใจกัน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้โลกใบนี้หน้าอยู่มากยิ่งขึ้น จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ จะเป็นแรงผลักดันในการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้ เพราะฉะนั้นการสอนลูกตั้งแต่เด็กให้เห็นอกเห็นใจผู้อื่น จะทำให้เด็กโตไปเป็นบุคคลที่มีความอ่อนโยน มีน้ำใจ และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ที่จะทำให้มีแต่คนรัก และเอ็นดู

วัสดุป้องกันความร้อนบ้านยอดนิยม

เพราะเมืองไทยเป็นเมืองที่มีอากาศร้อนตลอดทั้งปี ฉะนั้นการติดตั้งฉนวนกันความร้อน หรือวัสดุป้องกันความร้อน จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ที่จะทำให้บรรยากาศภายในบ้านของคุณนั้นเย็น สบายลง โดยที่ไม่เก็บความร้อนเอาไว้ภายใน ซึ่งในปัจจุบันก็มีวัสดุต่าง ๆ มากมายให้เลือกใช้งาน แต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป และรวมไปถึงราคา และระยะเวลาในการใช้งานเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นก่อนใช้งานควรศึกษาให้ละเอียด ทั้งสภาพแวดล้อม และวัสดุที่จะเลือกเอามาใช้งาน มีความเหมาะสมกันมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้สามารถใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

วัสดุป้องกันความร้อนบ้าน ที่จะทำให้บ้านของคุณเย็นทุกฤดูกาล

เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงเดือน มีนาคม – เมษายน ที่จะมีอากาศที่ร้อนมากที่สุดในรอบปี เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาด้วยเครื่องปรับอากาศอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ โดยที่วันนี้เราได้นำเอาวัสดุที่สามารถป้องกันความร้อนได้ เอามาแนะนำให้ได้ดูกัน ที่จะสามารถทำให้บ้านมีความเย็นสบาย น่าอยู่มากยิ่งขึ้น โดยที่ วัสดุป้องกันความร้อนบ้าน จะมีดังต่อไปนี้

1. หลังคา และฝ้าเพดาน

หลังคา และฝ้าเพดาน เป็นส่วนที่จะได้รับรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์โดยตรง เพราะฉะนั้นควรเลือกใช้งานหลังคาที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนรังสีความร้อน ที่จะไม่ทำให้บรรยากาศภายในบ้านอมความร้อน โดยที่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีเกี่ยวกับการผลิตหลังคาบ้านล้ำสมัยเป็นอย่างมาก ที่มีให้เลือกใช้งานหลายรูปทรง โดยที่การนำเอาหลังคาบ้านที่สะท้อนรังสีความร้อน นำเอามาติดตั้งกับบ้านในลักษณะที่มีความสูงโปร่ง ก็จะสามาถช่วยลดอัตราการเก็บสะสมความร้อนให้ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี

2. ผนังบ้าน

ผนังบ้านที่ดี ควรที่จะต้องถูกติดตั้งเข้ามาพร้อมกับฉนวนกันความร้อน โดยที่ควรใช้โทนสีอ่อนเข้ามาเป็นตัวช่วยทั้งการทาภายใน และภายนอก เพื่อที่จะทำไม่ให้ดูดความร้อนเข้าเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งอาจจะมีการปลูกต้นไม้ยืนต้นเอาไว้บริเวณนอกบ้าน ก็จะสามารถช่วยเป็นการป้องกันความร้อนชั้นแรกได้เป็นอย่างดี

3. พื้นบ้าน

พื้นบ้าน เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากเรื่องของการใช้งานแล้ว ยังสามารถช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านเย็นสบายขึ้นได้อีกด้วย โดยที่วัสดุที่นำเอามาทำพื้นบ้านนั้น ก็มีส่วนผสมที่จะสามารถทำให้การอมความร้อนภายในบ้านที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นการเลือกใช้วัสดุในการปูพื้น จึงจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดให้มากเป็นพิเศษ ก็จะสามารถช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านเย็นลงได้นั่นเอง

การเลือกใช้ วัสดุป้องกันความร้อนบ้าน เข้ามาเป็นองค์ประกอบภายในบ้าน ที่นอกจากจะช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านเย็นสบายได้แล้ว ยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่าย ค่าไฟฟ้า ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยการลดการใช้เครื่องปรับอากาศ เพราะถ้าหากทุกคนภายในบ้านมีความสุข หลับพักผ่อนได้อย่างเย็นสบาย ก็จะทำให้มีความสุข แถมยังเป็นการช่วยลดพลังงานที่เป็นปัญหาโลกร้อนได้อีกด้วย เรียกได้ว่าทั้งสบายกระเป๋า แถมยังสบายใจ อีกด้วย

บทความใหม่ล่าสุด

บทความน่ารู้