Home Blog Page 2

ทำความรู้จัก ไรขี้เรื้อนเปียก ในสุนัข สาเหตุ และการรักษา

ไรขี้เรื้อนเปียก หรือโรคขี้เรื้อนขุมขนสามารถพบได้ในสัตว์เลี้ยงแทบทุกประเภทโดยเฉพาะลูกสุนัขที่มักจะได้รับเชื้อจากแม่สุนัขในช่วงหลังคลอด โดยจะไม่มีส่งต่อเชื่อไปยังสุนัขตัวอื่นได้ถึงแม้จะมีอายุที่มากขึ้น ซึ่งต่างจากโรคขี้เรื้อนแห้งที่สามารถติดต่อได้หากสัตว์อยู่ใกล้ชิดกัน

สาเหตุการเกิด ไรขี้เรื้อนเปียก

สาเหตุที่เกิดโรคก็คือสุนัขที่มีความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ หรือมีโรคอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ โดยอาการที่พบได้ก็คือ ขนร่วง ผิวหนังอีกแสบแดง ในบางรายอาจจะมีสะเก็ดรังแค มีคราบน้ำเหลืองตามผิวหนัง หากมีอาการอักเสบที่รุนแรง หรือมีอาการติดเชื้อแบคทีเรียเพิ่ม ก็จะทำให้สุนัขคันเกาไม่หยุด

ไรขี้เรื้อนเปียก แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด

  1. แบบเฉพาะที่ – โรคขี้เรื้อนเปียกแบบเฉพาะที่จะเกิดขึ้นในบางตำแหน่งของร่างกายอาจจะมีขนร่วงเป็นหย่อม ๆ มีอาการอักเสบไม่รุนแรงมากนัก ส่วนใหญ่มักจะเกิดบริเวณรอบดวงตา ปาก ศีรษะ ขาหลัง และลำตัว โดยส่วนใหญ่จะสามารถหายได้เอง แต่อย่างไรก็ตามก็สามารถกลายเป็นแบบกระจายทั่วตัวได้
  2. แบบกระจายทั่วตัว – เป็นชนิดที่มีความรุนแรงมากกว่าแบบแรก โดยโรคจะมีการกระจายเป็นวงกว้าง เกิดขึ้นในหลายตำแหน่ง สามารถเกิดขึ้นได้บริเวณเท้าของสัตว์ได้อีกด้วย

การวินิจฉัย ไรขี้เรื้อนเปียก

สัตวแพทย์จะใช้วิธีขูดตรวจผิวหนังชั้นลึกเพราะเชื้อจะอาศัยอยู่ในรูขุมขนใต้ผิวหนัง แต่หากบริเวณที่ติดเชื้อยากต่อการขูด เช่น บริเวณรอบดวงตาอาจใช้วิธีดึงขนเพื่อมาส่องตรวจทางกล้อง หากการวินิจฉัยพบว่าเป็นโรคขี้เรื้อนเปียก ก็จะได้รับการตรวจหาโรคอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค เช่น ภาวะไทรอยด์ต่ำ โรคตับแบบเรื้อรัง เป็นต้น

การรักษา ไรขี้เรื้อนเปียก

การรักษาจะเป็นการให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่ผิวหนัง เช่น ยาปฏิชีวนะ รวมไปถึงแชมพูที่มีส่วนผสมของยาที่ออกฤทธิ์ทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขน รวมไปถึงการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น ยาที่ใช้รักษาก็มีทั้งแบบทา แบบกิน แบบหยด ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสัตวแพทย์ว่าจะใช้ยาแบบไหนโดยจะพิจารณาจากอาการ และความรุนแรงของโรค

ถึงแม้ ไรขี้เรื้อนเปียก แบบเฉพาะที่จะสามารถหายเองได้ แต่หากเกิดก็ไม่ควรปล่อยเอาไว้ควรรีบทำการรักษาเพราะอาจจะลุกลามกระจายทั่วตัวได้จนอาการรุนแรงได้ ดังนั้นหากใครเลี้ยงสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ก็ควรหมั่นสังเกตอาการเป็นประจำเพื่อที่สุนัขจะได้มีสุขภาพที่ดี และมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น

รักษาสิวที่หลัง ด้วยวิธีธรรมชาติ พร้อมวิธีป้องกัน

การ รักษาสิวที่หลัง ถือเป็นเรื่องที่สร้างความหนักใจให้ทั้งสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ถึงแม้จะอยู่ในร่มผ้าแค่หากเกิดขึ้นแล้วก็ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ โดยเฉพาะหากต้องใส่ชุดเปิดหลัง เสื้อสายเดี่ยว สวมชุดว่ายน้ำ ซึ่งสาเหตุก็มีหลายปัจจัยไม่ว่า ฮอร์โมน, เหงื่อไคลสิ่งสกปรก, ผิวแพ้ง่าย การอาหารทอด อาหารมัน เป็นต้น

รักษาสิวที่หลัง ด้วยวิธีธรรมชาติ

ดินสอพองผสมมะนาว – นำมาไปทาพอกไว้ให้ทั่วแผนหลังทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที แล้วล้างออก จะช่วยทำให้สิวยุบลง และยังลดอาการอักเสบได้เป็นอย่างดีโดยควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

ว่านหางจระเข้ – ปอกเอาแต่เนื้อวุ้นแล้วทาให้ทั่วแผ่นหลัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก วิธีนี้จะทำให้สิวยุบ ลดการอักเสบ และริ้วรอยของสิวได้

เกลือขัดผิว – ใช้สครับที่แผ่นหลังประมาณ 30-45 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยลดสิว ทำให้ผิวหลังเนียนมากขึ้น

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล – นำสำลีชุบน้ำส้มสายชูแล้วเช็ดให้ทั่วแผ่นหลังวันละ 1 ครั้ง จะช่วยฆ่าเชื้อทำให้สิวยุบลง ลดการอักเสบ และรอยสิวได้

มะขามเปียกผสมขมิ้น –  นำไปทั่วแผ่นหลังทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก วิธีนี้นอกจากจะช่วยรักษาสิว ลดการอักเสบ และริ้วรอยได้ ยังช่วยผลัดเซลล์สิวทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย

ใยบวบ – วิธีนี้ใช้ในกรณีที่สิวแห้งแล้ว โดยใช้ใยบวบถูบริเวณแผ่นหลังเบา ๆ เป็นประจำ จะช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดรอยสิว ทำให้ผิวเรียบเนียนได้เร็วขึ้น

วิธีป้องกันการเกิดสิวที่หลัง

  • การที่แผ่นหลังมีต่อมไขมันที่มาก น้ำมันตามรูขุมขนที่หลังออกมามากจึงเป็นต้นเหตุอีกทั้งเชื้อโรคยังไปสะสมได้ง่ายดังนั้นควรหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ
  • ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น แชมพู ครีมนวดผม ครีมกันแดด ที่ผสมสารเคมีในปริมาณที่สูง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ ดังนั้นการอาบน้ำทุกครั้งต้องแน่ใจว่าล้างออกจนหมด หรืออาจจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมเป็นสารเคมี
  • หากไม่อยาก รักษาสิวที่หลัง ควรใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ เพราะเสื้อที่รัดทำให้ระบายอากาศไม่ดีทำให้เชื้อโรคสะสมได้ง่ายจนเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว
  • หลีกเลี่ยงของทอดของมัน และของหวาน เพราะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้

เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกัน รักษาสิวที่หลังได้แล้ว ซึ่งก็สามารถใช้วิธีต่าง ๆ ได้ตามสะดวกซึ่งหากทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำนอกจากสิวจะหายแล้วจะทำให้ผิวเรียบเนียนสวยกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย

ระแนงบังแดด นอกจากความสวยงามแล้วยังมีดีมากกว่าที่คิด

ในปัจจุบันเรามักจะเห็นบ้านติดตั้ง ระแนงบังแดด กันเป็นจำนวนมากซึ่งก็ทำให้บ้านดูสวยเก๋มีความทันสมัยมากขึ้น มีสีสันลวดลายการออกแบบหลากหลายที่มีความแตกต่างกันออก แต่รู้หรือไม่ว่าระแนงนอกจากให้ความสวยงามแล้วยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ส่วนจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ระแนงบังแดด ช่วยให้บ้านเย็น ปกป้องบ้านไม่ให้โทรม

การติดตั้งไม้ระแนงเป็นการช่วยบังแดดให้เข้าสู่ตัวบ้านน้อยลง ทำให้ภายในบ้านรู้สึกเย็นมากขึ้น นอกจากนี้การที่บ้านไม่ถูกแสงแดดโดยตรงยังช่วยถนอมบ้าน เช่น ผนัง สี ขอบหน้าต่างประตู ไม่เสื่อมสภาพไว เก่าเร็วจากการถูกแสงแดดเลีย

เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้าน

ในบริเวณบ้านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เช่น บริเวณหน้าต่างที่อยู่ใกล้ชิดกับรั้วบ้าน ระเบียงของห้องนอน ซึ่งต้องการความเป็นส่วนตัวจากการมองเห็นจากภายนอก เมื่อก่อนอาจจะใช้วิธีก่อกำแพงสูง หรือใช้ผ้าม่าน แต่การติดระแนงนอกจากจะทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ยังช่วยให้เกิดความสวยงามอีกด้วย

ระแนงบังแดด ช่วยป้องกันฝนสาดเข้าบ้าน

ถึงแม้ระแนงกันแดดจะมีลักษณะเป็นซี่ไม่ทึบ มีความโปร่งอยู่ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมด แต่หากฝนตกแรง ๆ ก็สามารถๆ ลดทอนให้ปริมาณฝนให้สาดเข้าบ้านให้น้อยลงได้ ซึ่งน้ำฝนถือเป็นสิ่งที่จะทำให้สีของบ้านซีด นานไปอาจจะหลุด และยังทำให้ผนังเกิดเชื้อรา หรือคราบสกปรกได้ง่ายระแนงจึงสามารถช่วยได้อย่างมาก

ช่วยป้องกันสัตว์เข้าบ้าน

ปัญหาสัตว์เข้าบ้าน เช่น แมวจร หมาจร ที่มักจะหลงเข้ามามักจะสร้างความรำคาญให้กับผู้อยู่อาศัย แต่หากติดตั้งระแนงไว้บริเวณที่สัตว์มักจะเข้ามาบ่อย ๆ ก็จะทำกันสัตว์ให้เข้ามาในบ้านยากขึ้น โดยเฉพาะสัตว์เลื้อยคลานต่าง ๆ เช่นพวกงู ตะกวด หรือสัตว์มีพิษอื่น ๆ หากเข้ามาในจุดติดตั้งระแนงก็จะช่วยกั้นพวกมันได้ หากเปรียบเทียบกับบ้านที่ด้านหน้าเปิดโล่งมาก ๆ สัตว์เลื้อยคลานจะสามารถเข้าบ้านได้ง่ายกว่า

ระแนงบังแดด ติดตั้งง่าย

ระแนงกันแดด ในปัจจุบันมีแบบสำเร็จรูปให้เลือกใช้งานสามารถติดตั้งได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแนวนอนตำแหน่งเหนือบริเวณหน้าต่าง ประตู หรือจะติดแบบแนวตั้งก็ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งาน ที่สำคัญยังติดตั้งง่ายไม่ใช้เวลานาน

มาถึงตรงนี้คงพอจะรู้กันแล้วว่า ระแนงบังแดด นอกจากจะทำให้บ้านสวยงามดูเก๋แล้วยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างซึ่งหากบ้านของใครกำลังประสบปัญหาในเรื่องที่กล่าวมาก็สามารถแก้ไขด้วยการติดระแนงกันได้ รับรองว่าจะช่วยทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ

ทัวร์มาเก๊า ฤดูไหนควรไปมากที่สุด

การไปเที่ยว หรือ ทัวร์มาเก๊า ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนไทยชอบไปเยือน ซึ่งมาเก๊าเป็นเขตบริหารพิเศษของประเทศจีน โดยมาเก๊าขึ้นชื่ออยู่หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นบ่อนคาสิโนทำให้มีการประดาแสงไฟอย่างสวยงาม ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย เช่น ซากประตูโบสถ์เซ็นต์พอล, เซนาโด สแควร์, จัตุรัสเซนาโด, ป้อมปราการทางทหาร, หมู่บ้านวัฒนธรรม และวัดพุทธแบบจีน รวมไปถึงอาหารจีนเลิศรสที่นักชิมต้องไม่พลาด

ควร ทัวร์มาเก๊า ช่วงไหน

มาเก๊ามีภาพอากาศไม่ต่างจะประเทศไทยมากนักคือร้อนชื้น โดยสามารถแบ่งแต่ละช่วงเวลาของปีได้ออกเป็น 4 ฤดูกาล คือฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูฝน ซึ่งแต่ละฤดูก็มีความแตกต่างกันออกไปสามารถเลือกไปได้ตามใจชอบโดยมีดังต่อไปนี้

ฤดูใบไม้ผลิ ต้นเดือนมีนาคม – กลางเดือนพฤษภาคม

อากาศโดยทั่วไปจะร้อนชื้น บางวันก็มีหมอกลงหนาถึงขั้นเรื่องบิน และเรือเฟอรี่ ต้องหยุดให้บริการ โดยจะมีอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 18 ถึง 25 องศาเซลเซียส ดังนั้นหากไปเที่ยวในช่วงนี้ควรมีเสื้อพกเสื้อหนา ๆ ไปด้วยเผื่อไว้หากต้องเจอกับอากาศที่เย็น

ฤดูร้อน ปลายเดือนพฤษภาคม – กลางเดือนกันยายน

ฤดูร้อนในมาเก๊ามีสภาพอากาศเหมือนประเทศไทยบ้านเราคือร้อนชื้น มีโอกาสที่จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บ่อยอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 28 องศา หากเข้าสู่เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม อาจจะสูงถึง 32- 35 องศาเลยทีเดียว

ฤดูใบไม้ร่วง ปลายเดือนกันยายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน

เป็นอีกหนึ่งฤดูที่น่าไปเที่ยวเพราะอากาศเริ่มเย็นลง และแห้งมากขึ้น แดดแรง ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 25 องศาเซลเซียส และในตอนกลางคืนอากาศก็จะเย็นลงอีกหากไปในช่วงนี้ควรพกเสื้อหนา ๆ ติดตัวไปด้วย

ทัวร์มาเก๊า ฤดูหนาว เดือนธันวาคม – ปลายเดือนกุมภาพันธ์

ฤดูหนาวในมาเก๊าถือว่าหนาวไม่น้อย และมีอากาศแห้งอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ16 องศาเซลเซียส แต่ตอนกลางคืนอุณหภูมิจะลดลงอีก ส่วนใหญ่ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งแจ่มใส ดังนั้นหากไปเที่ยวในช่วงนี้ควรเตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อมเพื่อรับมือความหนาวเย็น

เมื่อพิจารณาดูแล้วการไป ทัวร์มาเก๊า ควรไปในช่วง ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งสภาพอากาศเหมาะต่อการท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตามก่อนไปก็ควรเช็กสภาพอากาศให้แน่ชัดอีกครั้ง นอกจากนี้ยังเป็นช่วง high season ต้องแลกกับค่าที่พักที่แพงขึ้น อีกทั้งต้องจองล่วงหน้าที่ค่อนข้างจะนาน เพราะมีนักท่องเที่ยวเยอะ ทำให้ราคาห้องพักสูงขึ้นตามไปด้วย

แชร์ลูกโซ่ คืออะไร ข้อสังเกตก่อนโดนหลอก

แชร์ลูกโซ่ ถือเป็นกลโกงหลอกให้คนมาร่วมลงทุน ส่วนใหญ่จะทำกันเป็นเครือข่ายจะใช้การชักชวน และชักจูงด้วยผลตอบแทนที่สูงผิดปกติ โดยมีเป้าหมาย หาสมาชิกเพื่อสร้างเครือข่ายให้ได้มากที่สุด แล้วจะนำเงินจากสมาชิกใหม่ไปจ่ายให้สมาชิกเก่า ซึ่งจะทำกันเป็นทอด ๆ ที่คล้ายห่วงโซ่ และเมื่อถึงจุดที่ไม่หาสมาชิกเพิ่มได้แล้ว จึงทำให้เก็บค่าสมัคร หรือค่าลงทุนไม่ได้ ส่งผลให้ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าตอบแทนได้ สุดท้ายเข้ามือแชร์ก็ต้องหนีโดยไม่รับผิดชอบเงินทุนของสมาชิกที่ลงไป

แชร์ลูกโซ่ มีกี่ประเภท

การเล่นแชร์แบบลูกโซ่จริง ๆ แล้วมีอยู่หลายรูปแบบแต่ส่วนใหญ่ที่พบได้ในปัจจุบันมี ดังนี้

เล่นแชร์ลูกโซ่ออนไลน์ – แชร์แบบนี้จะมาในรูปแบบออนไลน์ ชักชวนเล่นผ่านแพลตฟอร์มในโซเชียลมีเดีย โดยอ้างว่าจะให้ดอกเบี้ยเงินปันผลที่สูง

แบบเป็นบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ – จะเป็นการชวนคนมาร่วมลงทุนถือหุ้น โดยอ้างความน่าเชื่อถือว่าบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์

ชักชวนทำธุรกิจขายตรง – จะให้สมาชิกสร้างเครือข่ายแล้วทำการเก็บค่าสมัคร หรือให้ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท

ชวนลงทุนในธุรกิจ – วิธีนี้มักจะมาในรูปแบบชวนลงทุนในกองทุนการเกษตร การปั่นราคาสินค้าการเกษตร การลงทุนทองคำ น้ำมัน ยาที่อ้างว่ารักษาได้สารพัดโรค ซึ่งก็มักจะจูงใจด้วยผลตอบแทนที่สูง

จะรู้ได้ยังไงว่าเป็น แชร์ลูกโซ่

  • ทำการชักชวนพร้อมกับยกผลตอบแทนที่สูงมาล่อใจ และได้รับผลตอบแทนที่รวดเร็ว โดยจะเก็บเงินลงทุนที่สูง หรือเป็นในรูปแบบค่าสมัครสมาชิก หรือต้องซื้อสินค้าของวงแชร์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าจะอ้างธุรกิจอะไร
  • เร่งให้ลงทุนโดยใช้การพูดจาหว่านล้อมต่าง ๆ นานา กระตุ้นให้อยากลงทุนโดยเร็ว นั่นก็เป็นเพราะว่าธรรมชาติของการเล่นแชร์ลูกโซ่ต้องการคนร่วมลงทุน และขยายเครือข่ายให้ได้มากที่สุด
  • ชักชวนให้เข้าร่วมการสัมมนาธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีน่าเชื่อถือ อาจจะใช้คนมีชื่อเสียงมาร่วมสัมมนา
  • แชร์ลูกโซ่ จะหาที่มา หรือข้อมูลทางการเงินไม่ได้ การทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายจะสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับงบการเงินจากเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์ หากไม่พบข้อมูลการทำธุรกิจก็เสี่ยงที่จะโดนหลอกได้

ทั้งหมดนี้คือข้อสังเกตสำคัญของ แชร์ลูกโซ่ ซึ่งในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ จึงทำให้เกิดแชร์มากมายหลายแบบดังนั้นการลงทุนอะไรก็ต้องพิจารณาให้ดียิ่งมีผลตอบแทนสูงยิ่งต้องระวัง ให้ยืนอยู่หลักแห่งความเป็นจริงว่าเป็นไปได้หรือไม่ ควรหาข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบถึงแม้ผู้มาชักชวนจะเป็นคนรู้จัก หรือคนสนิทตาม ที่สำคัญอย่าให้ความโลภเข้าครอบงำเพราะถือเป็นสาเหตุสำคัญในการทำให้ถูกหลอกโดยไม่รู้ตัว

ความฝันกับตัวเลข ฝันแบบไหนจะถูกรางวัลใหญ่

ความฝันกับตัวเลข เป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งความฝันแต่ละแบบก็ล้วนแล้วสามารถตีเป็นตัวเลขเพื่อนำไปเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงได้ แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วความฝันแบบไหนกันแน่ที่ให้ความแม่นยำ และมีสิทธิ์ได้ลุ้นรางวัลใหญ่

ความฝันกับตัวเลข ฝันแบบนี้มีสิทธิรับรางวัลใหญ่

  • ฝันเว่าไปวัด ฝันเห็นพระ พระพุทธรูป หรือพระเครื่อง – เป็นความฝันที่มีความเป็นมงคล ทำนายได้ว่าจะมีโชคลาภจากการเสี่ยงโชค เลขนำโชคคือ 2, 7, 8, 9
  • ฝันเห็นสัตว์น้ำ ได้จับ ได้ทาน เช่น กุ้ง หอย ปู – ยิ่งเห็นมาก จับมาก ทานมากเท่าไหร่ ก็จะจะมีโชคใหญ่มากขึ้นมากเท่านั้น เลขนำโชค คือ 0, 4, 5, 7, 8, 9
  • ฝันเห็นปลา ฝันว่าจับปลา ทานปลา – เป็นความฝันแม่นยำที่สุด หากฝันแบบนี้แทบทุกตำราจะทำนายว่า จะมีโชคลาภเข้ามา ส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาด และจำนวนปลา เลขนำโชคคือ 5, 7, 8, 9
  • ฝันเห็นทองคำ – ฝันเห็นทอง หรือเครื่องประดับที่เป็นทองคำ ถือว่าเป็นความฝันที่ให้โชคลาภก้อนโต เลขนำโชคคือ 1, 2, 5, 8, 9
  • ความฝันกับตัวเลข ฝันเห็นนก หรือสัตว์ปีก  – หากฝันว่ามีนก หรือสัตว์ปีกบินเข้ามาหา หรือได้จับ จะมีโชคเข้ามาหาตัว หรือเข้ามาถึงบ้าน เลขนำโชค คือ 0, 1, 2, 5, 6
  • ฝันเห็นคนตาย เห็นศพ หรือโลงศพ – ความฝันแบบนี้อาจจะดูน่ากลัวดูเป็นลางร้าย แต่คนโบราณเชื่อว่าจะมีโชคก้อนโต เลขนำโชค คือ 0, 1, 4, 5, 8
  • ฝันเห็นพญานาค มังกร หรืองูใหญ่ – เป็นอีกหนึ่งความที่มีความเชื่อมาตั้งแต่โบราณว่าจะได้ลาภก้อนใหญ่ เลขนำโชค คือ 4, 5, 6, 8, 9
  • ฝันเห็นกบ – ไม่ว่าจะฝันเห็น ฝันว่าได้จับ แปลว่าจะมีโชคจะมากน้อยจุ้นอยู่กับขนาดและจำนวน เลขนำโชค คือ 1, 2, 5, 9
  • ฝันเห็นไก่ – ไม่ว่าจะฝันเห็น ฝันว่าได้จับ หรือได้ทาน ทำนายว่าจะมีโชคใหญ่จากคนแปลกหน้า เลขนำโชค คือ 0, 1, 2, 5, 8, 9
  • ความฝันกับตัวเลข ฝันว่าเห็นที่ลับทั้งผู้ชาย และผู้หญิง – หากฝันแบบนี้ถือว่ามีความแม่นยำสูงที่บอกว่าจะได้ลาภก้อนใหญ่ แต่ต้องไม่ไปเล่าความฝันให้ใครฟัง เพราะจะทำให้ลาภหาย เลขนำโชค คือ 1, 2, 4, 5, 6, 9

ทั้งหมดนี้คือ ความฝันกับตัวเลข ที่บอกว่าจะได้รับโชคลาภก้อนใหญ่ ดังนั้นหากใครฝันหลังจากตื่นนอนก็ไม่ควรลืมรีบมาจดตัวเลขเอาไว้เพราะอาจจะทำให้กลายเป็นเศรษฐีคนใหม่ในงวดที่กำลังจะมาถึงนี้

เคล็ดลับ ขับรถทางไกล ยังไงให้ถนอมเครื่องยนต์

การ ขับรถทางไกล ไม่ใช่อยู่อยากไปก็ไปได้เพราะอย่าลืมว่าต้องขับยาวนานซึ่งแน่นอนว่าเครื่องยนต์ต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง หากไม่ระวังอาจจะทำให้เครื่องยนต์มีปัญหาได้ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ดังนั้นเราจึงนำวิธีการขับรถไกล ๆ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบของเครื่องยนต์มาแนะนำกัน

ขับรถทางไกล ต้องเตรียมตัวอย่างไร

ก่อนจะออกเดินทางไกลในส่วนของรถควรตรวจเช็กความพร้อมให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟ ระบบเบรก เป็นต้น เพื่อจะได้ขับขี่โดยราบรื่นมากขึ้น ในส่วนของคนขับก็ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และวางแผนเรื่องเส้นทางให้เรียบร้อย

ขับรถทางไกล ควรพักรถตอนไหน

หากขับต่อเนื่องได้ 3-4 ชั่วโมง หรือได้ระยะทางประมาณ150-200 กิโลเมตร ควรหาที่พักรถสัก 30-60 นาที เพื่อให้เครื่องยนต์ได้คลายเรงเค้น และระบายความร้อนสะสม อีกทั้งยังเป็นการให้ผู้ขับได้ผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าจากการที่ต้องขับรถนาน ๆ อีกด้วย

ตอนจอดพัก ควรดับเครื่องทันทีไหม

ในเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเครื่องยนต์ชนิดไหนหากเป็นเครื่องยนต์เบนซิน เมื่อถึงจุดพักสามารถดับเครื่องยนต์ได้เลยเพราะระบบเผาไม้เป็นการฉีดน้ำมันเข้าสู่เครื่องยนต์โดยตรง และการระบายความร้อนก็ถือว่าไม่มีปัญหา

หากเป็นเครื่องดีเซล หรือเครื่องเบนซินที่มีการปรับแต่ง เมื่อถึงจุกพักควรจอดทิ้งไว้สักพัก 5-10 นาที เพื่อให้การเผ่าไหม้มีความสมบูรณ์ก่อนถึงจะดับเครื่องยนต์

ขับรถทางไกล ก่อนถึงจุดพักควรทำอย่างไร

เมื่อใกล้ถึงจุดพักรถควรค่อย ๆ ลดความเร็วลง เมื่อถึงจุดพักก็สามารถดับเครื่องได้เลย (สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน) หากเป็นเครื่องดีเซลก็จอดทั้งไว้สักครู่แล้วจึงดับเครื่องยนต์

เมื่อจอดพักรถ จำเป็นต้องเปิดฝากระโปรงไหม

การเปิดฝากระโปรงรถเพื่อระบายความร้อนนั้นไม่มีความจำเป็น เพราะขณะรถวิ่งอยู่ระบบระบายความร้อนทำงานอยู่แล้ว แต่หากอยากเปิดฝากระโปรงเพื่อความสบายใจก็สามารถทำได้ แต่ขอแนะนำว่าหากอยากเปิดเพื่อระบายความร้อนจริง ๆ เมื่อถึงจุดหมายปลายทางค่อยเปิดจะดีกว่า

ขับรถทางไกล ควรใช้ความเร็วเท่าไร

ในเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ระบุแน่ชัดในเรื่องของการถนอมเครื่องยนต์ แต่หากต้องการประหยัดน้ำมันก็ควรอยู่ที่ประมาณ 60 – 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือตามกฎหมายกำหนด ความเร็วสำหรับการขับรถเดินทางไกลสิ่งสำคัญที่สุดก็คือให้คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยให้มากที่สุดจะดีกว่า

ทั้งหมดนี้คือวิธี ขับรถทางไกล ให้ถนอมเครื่องยนต์ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย แต่ก็สามารถช่วยยืดอายุใช้งานรถยนต์ได้ และนอกจากให้ความสำคัญต่อเครื่องยนต์แล้วก็ควรขับรถอย่างมีวินัยเคร่งครัดต่อกฎจราจร เมาไม่ขับก็จะช่วยให้ถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างราบรื่นแลอดภัย

การเรียนรู้ตลอดชีวิต ทักษะด้านใดที่ควรมีเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

การเรียนรู้ตลอดชีวิต  หรือ lifelong learning เป็นหนึ่งของรูปแบบการเรียนรู้ศึกษาสิ่งใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาทักษะของตัวเอง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวัยไหนก็สามารถที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งไม่จำเป็นต้องเรียนผ่านสถานศึกษา lifelong learning ยังเป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดความก้าวหน้า และช่วยให้พร้อมกับสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ทักษะที่ควรมีสำหรับ การเรียนรู้ตลอดชีวิต

  1. ความคิดสร้างสรรค์ – เป็นสิ่งที่จะทำให้การเรียนรู้ไม่มีขอบเขตที่จำกัด และช่วยพัฒนาความคิดในด้านอื่น ๆ ได้ดีอีกด้วย
  2. การแก้ปัญหา – เป็นทักษะสำคัญในการใช้ชีวิต และยังช่วยพัฒนาการเรียนรู้ เพราะในอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลงจนเกิดปัญหา ก็จะสามารถรับมือได้อย่างไม่ยากมากนัก
  3. การคิดเชิงวิพากษ์ – การที่เรากล้าคิด กล้าถาม กล้ามแสดงความเห็นที่แตกต่างออกไป จะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่หลากหลายซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาการเรียนรู้
  4. การเป็นผู้นำ – ทักษะการเป็นผู้นำ จะช่วยให้เป็นคนกล้าคิดกล้าทำกล้าตัดสินใจ และยังสามารถนำความรู้ที่มีไปถ่ายทอดให้คนอื่นได้อีกด้วย
  5. การเรียนรู้ตลอดชีวิต ต้องมีทักษะการสื่อสาร – แนวโน้มจากนี้เป็นต้นไปการศึกษาเรียนรู้ หรือการทำธุรกิจล้วนจะเป็นรูปแบบออนไลน์ หากพัฒนาการสื่อสารในด้านนี้ ในอนาคตก็จะช่วยให้เราปรับตัวได้ง่ายมากขึ้น
  6. การประสานงาน – ทักษะการประสานงาน หรือการทำงานเป็นทีม การทำงานร่วมกับผู้อื่น จะทำให้เราสามารถมองเห็นภาพรวมได้ดีขึ้น ส่งผลให้มีการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
  7. การจัดการข้อมูล – ในยุคที่เต็มไปด้วยข้อมูล ทำให้การเรียนรู้มีมากมายหลายทาง การจัดการข้อมูลจึงเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อให้นำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนาทักษะเรียนรู้ได้หลายได้ที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคต
  8. การปรับตัว – ในยุคปัจจุบันสิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ การเรียนรู้เพิ่มทักษะจะทำให้เราปรับตัวเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือสิ่งที่คาดไม่ถึงในอนาคตได้
  9. การเรียนรู้ตลอดชีวิต ต้องมีความอยากรู้อยากเห็น – ความอยากรู้อยากเห็น ขี้สงสัย ถือว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมากเพราะจะช่วยกระตุ้นให้เราแสวงหาคำตอบ จึงส่งผลให้เราเกิดการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองไปตลอดชีวิต

การเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นสิ่งที่มีตั้งแต่ในวัยเด็กเรื่อยไปจนถึงวัยชรา ซึ่งไม่มีวันหมดอายุไม่มีทางสิ้นสุด และการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นประสบการณ์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในอนาคต ถึงแม้การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อาจจะลำบากบ้าง แต่หากตั้งใจก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะเรียนรู้ไปตลอดชีวิต

อุปกรณ์คาร์แคร์ ที่ร้านคาร์แคร์จำเป็นต้องมี

การทำธุรกิจคาร์แคร์นั้นได้รับความนิยมพอสมควร เพราะในแต่ละปีก็จะมีผู้ออกรถใหม่อยู่เรื่อยๆ จึงทำให้ฐานลูกค้าที่อาจมาใช้บริการคาร์แคร์นั้นมีเยอะพอสมควร ดังนั้นหากเรามีการบริหารจัดการร้านดี และมีอุปกรณ์คาร์แคร์ต่างๆที่จำเป็น ก็จะทำให้ร้านของเราได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ที่อยากเปิดร้านคาร์แคร์ ควรจะมีอุปกรณ์คาร์แคร์ที่จำเป็นดังนี้

เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง

สำหรับเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงนั้นเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากสำหรับร้านคาร์แคร์ เพราะว่าจะสามารถล้างทำความสะอาดตามบริเวณต่างๆของรถได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ทำความสะอาดโดยรอบตัวรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการขจัดคราบต่างๆที่ฝังลึกอยู่ตามซอกมุมของรถ หรือจะเป็นคราบสกปรกอื่นๆของรถซึ่งยากต่อการทำความสะอาด เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงก็จะชำระล้างทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยทุ่นแรงและใช้เวลาไม่นานในการทำความสะอาดรถ

ปั๊มลม

เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเป่าลมทำความสะอาด มีอยู่ด้วยกันหลากหลายขนาด โดยจะอัดลมให้มีแรงดันสูงตามที่ต้องการ สามารถที่จะต่อเข้ากับถังฉีดโฟมได้ ร้านคาร์แคร์บางที่ก็จะใช้สำหรับงานขัดเคลือบสีรถด้วย ใช้สำหรับฉีดล้างไส้กรองอากาศของรถได้ หากมีงบประมาณไม่มากก็อาจใช้ปั๊มลมขนาด 2 แรงม้า แต่หากอยากได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นก็ให้เลือกปั๊มลมแบบ 3 แรงม้าขึ้นไป

เครื่องดูดฝุ่น

เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่ร้านคาร์แคร์จะต้องมี สำหรับใช้ในการดูดฝุ่นภายในรถยนต์ให้มีความสะอาดมากขึ้น เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ในธุรกิจคาร์แคร์จะไม่เหมือนกับเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ตามบ้าน เพราะมีขนาดที่ใหญ่กว่าและน้ำหนักที่มากกว่า จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นภายในรถยนต์ได้เป็นอย่างดี คุณอาจเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นคาร์แคร์ที่มี 3 หรือ 2 มอเตอร์ เพราะหากระหว่างที่ทำงานมีมอเตอร์หนึ่งเสีย ก็ยังสามารถที่จะใช้มอเตอร์สำรองทำงานต่อได้

เครื่องฉีดโฟม

เหมาะที่จะใช้ในการล้างอัดฉีดและงานล้างทำความสะอาดรถยนต์อื่นๆ เครื่องฉีดโฟมจะมีตัวถังเป็นทรงแคปซูลแนวตั้ง มีหลายขนาด สำหรับขนาดที่ร้านคาร์แคร์ใช้กันโดยทั่วไปคือขนาด 65-70 ลิตร ฐานด้านล่างของตัวถังจะมีลูกล้อสำหรับการเคลื่อนย้ายเพื่อความสะดวกสบาย สำหรับการเลือกเครื่องฉีดโฟมมาใช้งานนั้นควรจะเลือกแบบถังสแตนเลส เพื่อป้องกันการเกิดสนิมขึ้นที่ตัวถัง

เครื่องขัดสีรถยนต์

การขัดสีรถยนต์นั้นจะเป็นการฟื้นฟูสีรถที่ดูหมองให้กลับมาเงางามอีกครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถที่จะลบรอยขีดข่วนที่เกิดขึ้นกับตัวรถได้อีกด้วย ซึ่งเครื่องขัดสีรถยนต์นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  • เครื่องขัดสีระบบโรตารี่ สามารถขัดลบรอยลึกและขัดสีรถยนต์ได้ดี ขณะใช้งานจะเกิดความร้อนบนผิวรถ จึงทำให้ลบรอยต่างๆได้อย่างรวดเร็ว การใช้งานไม่ควรขัดแช่อยู่กับที่ เพราะจะทำให้สีรถพองได้ ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ใช้งานที่มีความชำนาญ
  • เครื่องขัดสีระบบข้อเหวี่ยง จะเป็นระบบหมุนส่ายไปมา ใช้งานง่าย จึงเหมาะสำหรับมือใหม่

นอกจากจะต้องมีอุปกรณ์คาร์แคร์แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างสำหรับการทำธุรกิจคาร์แคร์คือการบริการ หากคุณบริการลูกค้าได้ประทับใจ คุณก็จะได้ลูกค้าประจำเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ที่มากขึ้นนั่นเอง

สังคมออนไลน์ คืออะไร มีประเภทใดบ้าง

ในโลกยุคปัจจุบันที่มีอินเตอร์เน็ตนั้น เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารได้รับการพัฒนาไปอย่างมาก เราสามารถที่จะพูดคุยและเห็นหน้ากันผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ จึงทำให้สามารถเชื่อมโยงกับผู้คนได้ทั่วโลก

สังคมออนไลน์ คืออะไร?

สังคมออนไลน์ คือ การที่มนุษย์รู้จักกันและเชื่อมโยงหากันผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยการใช้บริการผ่านเว็บไซต์ต่างๆที่สามารถเชื่อมโยง ส่งข้อความ หรือสามารถที่จะเห็นหน้ากันได้ เว็บไซต์จะมีพื้นที่ให้ผู้คนมาทำความรู้จักกัน มีเครื่องมือต่างๆอำนวยความสะดวกสำหรับการสร้างเครือข่าย สามารถที่จะสร้างเนื้อหาต่างๆที่หลากหลายเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คน จนในที่สุดก็กลายเป็นชุมชนที่มีผู้คนหลากหลายแชร์เรื่องราวต่างๆลงไป

ประเภทของเครือข่ายสังคมออนไลน์

สร้างตัวตน (Identity Network)

จะเป็นในรูปแบบของการสร้างตัวตนบนพื้นที่ของเว็บไซต์ต่างๆ สามารถที่จะแชร์เรื่องราวของตัวเองไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ข้อความ วีดีโอ และแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ตัวเองสนใจ นอกจากนี้ยังสามารถที่จะหาเพื่อนใหม่ได้อีกด้วย สำหรับตัวอย่างของโซเชียลมีเดียประเภทนี้ เช่น Facebook, Twitter เป็นต้น

เผยแพร่ผลงาน (Creative Network)

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเผยแพร่ผลงานของตัวเอง สามารถที่จะนำเสนอผลงานของตัวเองจากที่ไหนก็ได้ทั่วโลก จะมีเว็บไซต์ต่างๆที่ให้บริการเหมือนกับแกลเลอรี่ ที่เอาไว้จัดเก็บและแสดงผลงานของตัวเอง เช่น รูปภาพ วีดีโอ เพลง สำหรับสังคมออนไลน์ประเภทนี้ เช่น YouTube, Flickr, Photobucket เป็นต้น

ชอบในสิ่งเดียวกัน (Passion Network)

เป็นลักษณะของการเก็บสิ่งที่ชอบไว้บนเครือข่าย เพื่อที่จะสามารถแบ่งปันเรื่องราวต่างๆให้กับผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องเดียวกันได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นแหล่งอ้างอิงสำหรับการเข้าไปหาข้อมูล และโหวตให้คะแนนในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบหรือคิดว่าเป็นประโยชน์ได้ ตัวอย่างของสังคมออนไลน์ประเภทนี้ เช่น Reddit, Digg, Ning เป็นต้น

เครือข่ายสำหรับการประกอบอาชีพ (Professional Network)

จะเป็นลักษณะการใช้ประโยชน์สำหรับการเผยแพร่ประวัติและผลงานของตนเอง บริษัทต่างๆที่ต้องการคนมาร่วมงานด้วยก็จะสามารถเข้ามาดูประวัติของผู้ใช้งานได้ สำหรับเครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทนี้ที่เป็นที่นิยมได้แก่ Linkedin ซึ่งจะมีผู้ที่สนใจอยากทำงานในหลากหลายสาขาอาชีพเข้ามาฝากประวัติของตัวเอง

ร่วมกันทำงาน (Collaboration Network)

เป็นสังคมออนไลน์ที่ต้องการต่อยอดจากผู้ใช้ที่มีความรู้ เพื่อที่ความรู้จะได้มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและมีการพัฒนามากขึ้น คนที่เข้ามาใช้งานมักจะต้องการเข้ามาเผยแพร่สิ่งที่ตนเองรู้ เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่สังคม จะสามารถเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นลักษณะเนื้อหา เช่น ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ วิชาการ สำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ในด้านนี้ เช่น Google earth, Wikipedia เป็นต้น

หากเรามีความรู้ ผลงาน หรือสิ่งที่เราต้องการนำเสนออยากให้ผู้คนรู้จักมากขึ้น การรู้จักใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสังคมออนไลน์จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะข้อมูลของคุณจะเข้าถึงผู้คนเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ผลงานที่เราเผยแพร่ไปนั้นมีโอกาสโด่งดังขึ้นมาได้

บทความใหม่ล่าสุด

บทความน่ารู้